‘หลวงพ่อพระยาไฟ’ เป็นพระพุทธรูปของราชวงศ์แสนเวียง ซึ่งเป็นประเทศเล็ก ๆ มีเจ้าหลวงชื่อเจ้าไจเมือง ต่อมาเกิดขบถโดยกลุ่มของนายพลหาญศึก ทำให้เจ้าไจเมือง และครอบครัวถูกสังหาร พวกขบถต้องการชิงหลวงพ่อพระยาไฟไปเป็นของตัวเอง แต่พระพุทธรูปองค์ดังกล่าวเกิดสูญหายไประหว่างสงครามกลางเมือง และกลับมาปรากฏที่หมู่บ้านพงพาน ฝั่งชายแดนไทย 20 ปีต่อมา เสือหาญ (โอภาภูมิ ชิตาพัณณ์) ขุนโจรผู้มีอาคมแก่กล้า พาพวกบุกมาปล้นชิงพระพุทธรูปหลวงพ่อพระยาไฟ ชาวบ้านหนุ่มชื่อ กลด ศรพระราม (ณัฐพล ไรยวงค์) และเพื่อนชื่อ ทิดหรุ่น (บุรันช์รัตน์ 
หอมบุตร) เข้ามาขัดขวาง และติดตามพระไป กำนันกล้า (ดิเรกวรัฐ อมาตยกุล) พ่อของกลด จึงนำชาวบ้านออกมาช่วย แต่ หลวงพ่อสี (ชาติชาย งามสรรพ์) บอกว่าเรื่องนี้ฟ้าได้ลิขิตเอาไว้แล้ว และผู้ที่จะตามหลวงพ่อพระยาไฟกลับคืนมาได้ก็คือ กลด ศรพระราม เท่านั้น วรรณชาติ (ถิร ชุติกุล) และ นายพลหาญศึก (ปัณฑ์รพล วิสิฐวัชรมงคล) อยากได้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อพระยาไฟมาเพื่อล้างอาถรรพ์คำสาปที่นายพลหาญศึกผิดน้ำพิพัฒน์สัตยาจนกลายเป็นโรคร้าย เมื่อหลวงพ่อพระยาไฟเป็นที่ต้องการของทุกคน จึงเกิดการแย่งชิงกันเกิดขึ้น ทำให้ สาลิกา (ปาณิชดา แสงสุวรรณ) และ ศรีไพร (สิมิลัน เตมีวณิชย์) ร่วมมือกับกลด และทิดหรุ่น ในการตามหาหลวงพ่อพระยาไฟ และคอยขัดขวางการทำพิธีของนายพลหาญศึก ต่อมาสาลิกาถูก กุดั่น (เชษฐ์ ฮันเตอร์ เบิร์ก) องครักษ์ของวรรณชาติจับตัวไป เพราะสาลิกาคือผู้หญิงเลือดหงส์ตามคำทำนาย วรรณชาติจึงต้องนำเลือดของสาลิกา มาใช้ในพิธีล้างอาถรรพ์ครั้งนี้ด้วย แต่วรรณชาติมีความคิดอยากได้พลังวิเศษ จึงหักหลังและดูดพลังของกุดั่น และหมายจะดูดพลังของนายพลหาญศึกด้วย วรรณชาติจึงวางแผนหลอกจัดพิธีล้างอาถรรพ์ให้นายพลหาญศึกขึ้น เมื่อกลดรู้เรื่องราวทั้งหมดของสาลิกา จึงเริ่มฝึกสมาธิ ด้วยการฝึกจิต นึกถึงหลวงพ่อพระยาไฟที่ปรากฏในสมาธิมาเป็นพลังในการต่อสู้ด้านไสยเวท กับวรรณชาติ โดยมีกุดั่น ทิดหรุ่น และศรีไพร เป็นคนช่วยในครั้งนี้ พวกเขาจะเอาชนะศัตรู และแย่งชิงหลวงพ่อพระยาไฟคืนมาได้หรือไม่ ติดตามลุ้นกันได้ในละคร “โอม! พระยาไฟ”